
หมอเฉพาะทางเตือน อาการป่วย "โดนัล ทรัมป์" อาจรุนแรงกว่าที่คิด เสี่ยงนำไปสู่การถูกตัดอวัยวะ สูญเสียแขนขา
เกิดความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ หลังมีภาพข้อเท้าบวมแพร่ในสื่อ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น ภาวะหลอดเลือดดำบกพร่องเรื้อรัง (Chronic Venous Insufficiency – CVI)
ดร.มิมมี กว่อง รองศาสตราจารย์ด้านศัลยกรรมหลอดเลือด มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ภาวะนี้พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ แต่หากรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสียอวัยวะได้

แม้จะมีรายงานจากแพทย์ประจำทำเนียบขาว กัปตัน ฌอน บาร์บาเดลลา ในเดือนเมษายนว่า ทรัมป์มี “สุขภาพกายและสมองยอดเยี่ยม แข็งแรงเต็มที่”
และต่อมาโฆษกทำเนียบขาว คาโรไลน์ ลีวิตต์ ก็ยืนยันในเดือนกรกฎาคมว่าทรัมป์มีภาวะ CVI แต่ผู้เชี่ยวชาญอธิบายว่าโรคนี้เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดดำในร่างกายทำงานผิดปกติ

“โดยทั่วไปมักเกิดที่ขาหรือแขน” ดร.กว่อง เขียนในบล็อกของ UC Davis Health ซึ่ง Irish Star รายงานต่อ “หลอดเลือดดำทำหน้าที่ส่งเลือดจากเท้าหรือมือกลับไปยังหัวใจ หากทำงานไม่ดี เลือดจะค้างอยู่ ทำให้เกิดอาการเจ็บ ปวด บวม ตึง และในกรณีร้ายแรงอาจถึงขั้นเกิดแผลหรือสูญเสียแขนขาได้”
เธอเสริมว่า อาการอาจมีตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง มักพบในผู้หญิงและผู้สูงอายุ โดยอาการบวมที่ขาถือเป็นสัญญาณชัดเจนที่สุดอย่างหนึ่งของโรคนี้ “เมื่อบวมมากขึ้นอาจทำให้ผิวหนา อักเสบ แห้ง และหากรุนแรงขึ้นอาจทำให้เกิดแผลที่หายยาก และสุดท้ายอาจต้องตัดอวัยวะ”
การรักษาขึ้นอยู่กับหลอดเลือดดำที่ได้รับผลกระทบ หากเป็นหลอดเลือดดำลึกจะรักษายากและมีทางเลือกจำกัด วิธีเบื้องต้นคือยกขาสูง เคลื่อนไหวร่างกาย และสวมถุงน่องรัดเส้นเลือด ดร.กว่องกล่าว
แม้จะมีภาพถ่ายของทรัมป์วัย 79 ปีที่แสดงให้เห็นอาการขาบวมหลายครั้งหลังการวินิจฉัย แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเขาสวมถุงน่องรัดเส้นเลือดหรือไม่ ในกรณีรุนแรง ผู้ป่วยอาจต้องพิจารณาการรักษาเพิ่มเติม เช่น การจี้หลอดเลือด การผ่าตัดเอาหลอดเลือดออก หรือการฉีดสารเคมีเพื่อทำให้หลอดเลือดฝ่อและถูกดูดซึมในที่สุด