“ลวรณ” ยันคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ได้ใช้แน่ ม.ค. 69 “คลัง” เตรียมชง ครม. ใน ธ.ค. นี้ หวังดันจีดีพีโต 1% ชี้ คน ส่วนยอดใช้จ่ายคนละครึ่งเฟสแรกใช้หมดแล้ว 3 สิทธิ์
วันนี้ (4 ธ.ค. 68) นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงการคลัง อยู่ระหว่างการรายละเอียดโครงการคนละครึ่งพลัส เฟส 2 ยืนยันจะเดินหน้าดำเนินการอย่างแน่นอน เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการใช้งาน โดยจะสรุปภายในเดือนธ.ค.นี้ เพื่อให้ใช้งานได้ในเดือนม.ค. 2569
“ในระหว่างนี้ จะปรับปรุงรายละเอียดโครงการให้ดีขึ้นกว่าเดิม ส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้ อยู่ระหว่างการพิจารณาเช่นกัน ส่วนงบกลางที่มีอยู่ยังเพียงพอ เพราะใช้ไปถึงไม่ครึ่ง แม้จะจัดสรรช่วยเหลือเยียวยา น้ำท่วมภาคใต้แล้ว” นายลวรณ ระบุ
ส่วนความคืบหน้าการลงทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ คาดว่าจะว่าเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.)
นายลวรณ กล่าวว่า ตามนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทั้งคนละครึ่งพลัส เที่ยวดีมีคืน เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาส 4 ปีนี้ โต 1 % ตามที่คาดการณ์ไว้
ในส่วนของการใช้จ่ายในโครงการเฟส 1 นั้น ข้อมูลระบุว่า ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ ยังใช้เงินไม่หมด โดยมีผู้ที่ใช้เงินหมดแล้วเพียง 3 ล้านคน จากจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 20 ล้านคน หรือยังมีประชาชนกว่า 17 ล้านคน ที่ยังคงมีวงเงินใช้จ่ายคงเหลือ
“ในส่วนของการใช้จ่ายในโครงการเฟส 1 นั้น ข้อมูลระบุว่า ผู้เข้าร่วมโครงการส่วนใหญ่ ยังใช้เงินไม่หมด โดยมีผู้ที่ใช้เงินหมดแล้วเพียง 3 ล้านคน จากจำนวนผู้เข้าร่วมทั้งหมด 20 ล้านคน หรือยังมีประชาชนกว่า 17 ล้านคน ที่ยังคงมีวงเงินใช้จ่ายคงเหลืออยู่”
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ล่าสุด ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 15.00 น. โดยเปิดเผยตัวเลขผู้ใช้สิทธิ ร้านค้าที่ร่วมโครงการ และยอดใช้จ่ายรวม ที่ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ส่งสัญญาณบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากช่วงปลายปี
แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้มีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบและเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า992,453 ร้านค้า ครอบคลุมทั่วประเทศ ทั้งร้านค้าทั่วไปและร้านค้าที่ให้บริการผ่านแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่ ซึ่งช่วยขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าและเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างต่อเนื่อง
กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” ณ วันที่ 4 ธ.ค. 2568 โดยมีร้านค้าที่ผ่านการตรวจสอบและเข้าร่วมโครงการแล้ว 992,453 ร้านค้า ครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงร้านค้าบนแพลตฟอร์มฟู้ดเดลิเวอรี่
ด้านประชาชน มีผู้ใช้สิทธิครบจำนวนแล้ว 3,069,459 ราย (ข้อมูล ณ 3 ธ.ค. 68) สะท้อนการตอบรับที่ดีต่อมาตรการช่วยลดค่าครองชีพ ยอดใช้จ่ายสะสมในโครงการอยู่ที่ 66,576.3 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้จ่ายผ่านร้านค้าปกติ 64,407.1 ล้านบาท และผ่านฟู้ดเดลิเวอรี่ 2,169.2 ล้านบาท โดยรัฐร่วมจ่าย 32,788.8 ล้านบาท ขณะที่ประชาชนจ่ายเอง33,787.5 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีผู้ประกอบการผ่านการอบรม Upskill & Reskill แล้ว 87,350 ราย เพื่อยกระดับทักษะและรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล โดยกระทรวงการคลังย้ำว่าโครงการยังเป็นกลไกสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากช่วงปลายปี และจะติดตามผลอย่างใกล้ชิด.
