สหรัฐ “ถล่มฐานไอเอส” กว่า 70 แห่งในซีเรีย ลั่นไม่ใช่สงคราม-แต่เป็นการ “แก้แค้น”
สหรัฐ “ถล่มฐานไอเอส” – บีบีซี รายงานวันที่ 20 ธ.ค. ว่า กองทัพสหรัฐอเมริกาดำเนินการ “โจมตีครั้งใหญ่” ต่อกองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียเพื่อตอบโต้หลังกองกำลังอเมริกันในซีเรียถูกโจมตีจนมีผู้เสียชีวิต
กองบัญชาการกลางแห่งสหรัฐ (เซนต์คอม) ซึ่งกำกับดูแลปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐในยุโรป แอฟริกา และอินโดแปซิฟิ ระบุว่าเครื่องบินรบ เฮลิคอปเตอร์จู่โจม และปืนใหญ่ถล่มเป้าหมายมากกว่า 70 แห่งในหลายจุดทั่วพื้นที่ตอนกลางของซีเรีย รวมถึงเมืองอัรร็อกเกาะฮ์และดัยรุซซูร
นอกจากนี้ยังมีเครื่องบินรบจากกองทัพจอร์แดนเข้าร่วมปฏิบัติการดังกล่าว พร้อมเสริมว่า “ใช้กระสุนที่มีความแม่นยำสูงกว่า 100 ลูก” พุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานและแหล่งเก็บอาวุธของกองกำลังไอเอส
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวว่า “เรากำลังโจมตีอย่างหนักหน่วง” ต่อฐานที่มั่นของไอเอสหลังเหตุซุ่มโจมตีในเมืองพัลไมราในเขตผู้ว่าราชการฮอมส์เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ส่งผลให้พลเมืองชาวอเมริกัน 3 รายเสียชีวิต เป็นทหาร 2 นายและเจ้าหน้าที่ล่ามอีก 1 ราย
และว่ารัฐบาลซีเรียให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ โดยกองบัญชาการกลางโพสต์ผ่านเอ็กซ์ด้วยว่า ปฏิบัติการ ฮอล์คอาย สไตรก์ (Hawkeye Strike) เริ่มขึ้นเมื่อเวลา 16:00 น. ของวันศุกร์ที่ 19 ธ.ค. ตามเขตเวลาตะวันออก (อีที).
พล.ร.อ.แบรด คูเปอร์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางแห่งสหรัฐ กล่าวว่าสหรัฐจะยังไล่ล่าผู้ก่อการร้ายที่พยายามทำร้ายชาวอเมริกันและพันธมิตรทั่วทั้งภูมิภาคอย่างไม่ลดละ
ด้าน นายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐ กล่าวว่าปฏิบัติการนี้ “ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของสงครามแต่เป็นการประกาศการแก้แค้น หากคุณตั้งเป้าหมายโจมตีชาวอเมริกันไม่ว่าจะที่ใดในโลก คุณจะต้องใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างวิตกกังวล โดยรู้ว่าสหรัฐจะตามล่าคุณ ค้นหาคุณ และสังหารคุณอย่างโหดเหี้ยม วันนี้เราได้ตามล่าและสังหารศัตรูของเรามากมายและเราจะดำเนินการต่อไป”
