ประชาธิปัตย์ เปิดตัวแคมเปญ สู้เลือกตั้ง เปลี่ยนปัญหา “ทนหายใจ” เป็น “ไทยหายจน” ลั่นคนอาสามาลง สส.-แคนดิเดตนายกฯ ต้องยึดหลักนี้
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ธ.ค. 2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงเปิดตัวแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการว่า จากที่ได้เชิญชวนประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย เพื่อบอกความอึดอัดในปัจจุบันประชาชนต้องทนอะไรและไม่อยากทนอะไร
ปรากฏว่ามีคำตอบกลับมาหลายหมื่นคน อารมณ์เดียวกันว่า มีเรื่องจำนวนมากที่ไม่อยากทน เช่น ความยากลำบาก ปากท้อง หลายคนไม่อยากทนความจน เป็นเกษตรกร ไม่ทนต่อราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ
ผู้ประกอบการรายย่อยบอกว่าไม่อยากทนราคาสินค้าที่ต่างชาติตัดราคา และไม่อยากทนเรื่องหนี้นอกระบบ คนที่มองยาวไปกว่านั้นคิดถึงลูกหลาน ไม่อยากทนกับระบบการศึกษาที่ล้าหลัง หลายคนเผชิญกับปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่อยากทนกับภัยพิบัติ ฝุ่น PM 2.5 และสุดท้าย คือ อาการที่ต้องทนหายใจ
“ถึงเวลาที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องประกาศว่าประเทศไทยไม่ทน พรรคประชาธิปัตย์ขออาสามาเปลี่ยนแปลงสภาพที่เป็นอยู่ เพราะพรรคมาในการเมืองสุจริต ไม่มีประโยชน์ทับซ้อน มาในฐานะสถาบันการเมือง สามาถตอบโจทย์ประเทศได้ว่าไม่ต้องหายใจไปวันๆ ทนหายใจ
ซึ่งการเลือกตั้งปี69 พรรคประชาธิปัตย์และประชาชนจะกลับมาทำสิ่งที่ทุกคนทนหายใจ ให้เป็น ไทยหายจน โดยเป้าหมายสุดท้าย คือ หลุดพ้นจากปัญหาทนหายใจ ไปสู่ภาวะ ไทยหายจน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ทำเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ และไม่ใช่เรื่องความจน เพราะความจนจะผูกขาดและติดขัดไปส่วนอื่น เช่น จนปัญญา เพราะปัญหาของระบบการศึกษา จนตรอก ไม่มีทางสู้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดที่พรรคประชาธิปัตย์ยึดถือในการทำนโยบายเพื่อรณรงค์หาเสียง โดยพรรคประชาธิปัตย์จะอาสามาขจัดความจน แก้ปัญหาสังคมและคุณภาพชีวิต
โดยจากนี้ไปจะเปิดตัวผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.บัญชีรายชื่อ และอาสาตัวเป็นนายกฯ 3 คน โดยสิ่งสำคัญไม่ว่าใครสมัคร สส. หรืออาสาตัวเป็นนายกฯ ทุกคนจะต้องรู้ว่าภารกิจสำคัญ คือ ทำให้คนไทยหายจน ส่วนที่จะต้องทนกับสิ่งต่างๆ จะพาไปสู่การหลุดพ้นภาวะหายจนได้ จะได้ไม่ต้องทนหายใจ แต่เป็นไทยหายจน